แนวปักไม้ไผ่ชะลอคลื่น : การป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งภาคประชาชน



การแก้ปัญหาหรือลดปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง   ส่วนใหญ่จะเป็นแบบโครงสร้างแข็ง มีขนาดใหญ่ 
ใช้งบประมาณมาก ต้องมีบริษัทฯหรือวิศวกรมาทำการศึกษา ทำการออกแบบ ต้องมีเครื่องจักรขนาดใหญ่ มาทำการก่อสร้าง ฯลฯ  แต่ถ้าพื้นที่นั้นถูกกัดเซาะแล้วชาวบ้านเริ่มเดือดร้อน หรือ ต้องการป้องกันหรือชะลอปัญหาไว้ก่อนที่จะขยายใหญ่โตหรือรุนแรง แต่ไม่มีงบประมาณ ไม่มีทุน ไม่มีหน่วยงานที่มี
งบประมาณมาช่วย หรือพื้นที่ไม่สามารถทำโครงสร้างขนาดใหญ่ๆ หรือสุดท้ายเคยมีตัวอย่างทำแล้วแต่ไม่ได้ผล และชุมชนไม่ต้องการโครงสร้างแข็งขนาดใหญ่ๆดังกล่าว แล้วจะทำอย่างไร ?




แนวป้องกันโดยการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่นแล้วปลูกป่าชายเลนชนิดที่เหมาะสมสำหรับพื้นที่นั้นๆหลังแนวปักไม้ไผ่เป็นทางเลือกหนึ่ง ที่ชุมชนชายฝั่งทะเลที่เป็นชาวบ้านแท้ๆนำมาใช้ และถ่ายทอดกันปากต่อปากถึงผลสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะในระดับที่ชุมชนมีความสามารถตั้งแต่การสร้าง ดูแล ซ่อมแซม ตลอดจนขยายออกไปเมื่อเห็นว่าได้ผลแล้ว
           ในครั้งนี้ต้องการนำเสนอว่าแนวปักไม้ไผ่ชะลอคลื่นรวมกับการเสริมด้วยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการปลูกต้นไม้ชายเลนหลังแนวไม้ไผ่ การนำยางรถยนต์มาเสริมให้ตกตะกอนเพิ่มขึ้น ฯลฯ มีการใช้อย่างกว้างขวางโดยถูกประยุกต์ดัดแปลงไปให้เหมาะสมตามสภาพพื้นที่ วัสดุที่หาได้ และความต้องการที่แท้จริงของแต่ละชุมชนได้อย่างไร มีความสำเร็จหรือล้มเหลว ปัญหาอุปสรรคและทางแก้ไขอย่างไรบ้าง ที่สำคัญคือมีชุมชนชายทะเลใดบ้างที่กำลังดำเนินการอยู่เพื่อจะได้สามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์ได้ในอนาคต
           สำหรับชุมชนชายฝั่งทะเลจนถึงปัจจุบันที่มีการนำแนวปักไม้ไผ่ชะลอคลื่นร่วมกับวิธีอื่นๆมาใช้ในการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งได้แก่
1. ตำบลโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
2. ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
3. ตำบลบางกระเจ้า อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
4. ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
5. ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม
6. ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ
7. ตำบลสองคลอง อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา
8. ชุมชนบ้านปากพญา ตำบลท่าซัก อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
9. ตำบล คลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่
10.ปากอ่าวภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
11.ม. 4 ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ จ.ระนอง
12.ชุมชนบ้านเปร็ดใน อ.เมือง จังหวัดตราด


 ผลกระทบที่เกิดขึ้น
 ผลกระทบที่เกิดขึ้นด้านทรัพยากรทางทะเล การปักแนวไม้ไผ่จะสามารถสลายพลังงานคลื่น ชะลอกระแสคลื่นลมในช่วงฤดูมรสุมให้มีความรุนแรงที่ลดลงเมื่อพัดมาถึงฝั่งส่งผลให้ต้นไม้สามารถยึดดินจนเจริญเติบโตได้  และยังทำหน้าที่ในการดักตะกอนดินและตะกอนทรายที่พัดมาจากทะเลและดักเมล็ดพันธ์ต้นไม้ชายที่ลอยน้ำมาติดบริเวณเขื่อนสามารถงอกเจริญเติบโตต่อไปได้  ทำให้พื้นที่หลังเขื่อนไม้ไผ่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมทีซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มเริ่มกลายเป็นเนินตะกอนเลนจากการตกตะกอน  ต้นไม้ป่าชายเลนหลังแนวเขื่อนเจริญเติบโตกลายเป็นต้นใหญ่และสามารถต้านทานแรงคลื่นลมจากทะเลได้เป็นอย่างดี  พื้นที่ชายฝั่งบ้านคลองประสงค์คงจะกลายพื้นที่ป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้และสัตว์น้ำชายฝั่งให้ชุมชนได้ใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อไป
 ตั้งแต่เริ่มต้นกิจกรรมในเดือนมิถุนายน 2556 จนถึงปัจจุบันผ่านมาแล้ว 8 เดือน พบว่าหลังแนวเขื่อนไม้ไผ่และบริเวณชายฝั่งกลับกลายเป็นตะกอนเลนสูงขึ้นอย่างชัดเจน  โดยทางชุมชนได้ติดตามการตกตะกอนหลังเขื่อนไม้ไผ่โดยการวัดระดับการตกตะกอนหลังเขื่อนไม้ไผ่จากแท่งไม้ไผ่ที่ปักบริเวณเขื่อน พบว่า ถึงปัจจุบันได้เกิดตะกอนดินสูงขึ้น 15 เซนติเมตร  ซึ่งมีความต่างอย่างชัดเจนกับพื้นที่หน้าเขื่อนไม้ไผ่
การเพิ่มอัตรารอดของต้นไม้หลังแนวเขื่อน ชาวบ้านตระหนักดีอยู่แล้วว่าไม้ไผ่มีอายุการใช้งานไม่ยาวนานมากนัก  แต่ถ้าหากสามารถเพิ่มปริมาณต้นไม้บริเวณหลังแนวเขื่อนไม้ไผ่จะสามารถเป็นแนวปรากฏการณ์ทางธรรมชาติช่วยลดการกัดเซาะชายฝั่งได้และลดแรงลมแรงคลื่นจากทะเลได้อย่างถาวร  โดยผลหลังจากการปักเขื่อนไม้ไผ่แล้วทางชุมชนช่วยกันปลูกต้นไม้ (ต้นแสมเนื่องจากมีรากที่แพร่ออกกว้างและทนความเค็มได้ดี)บริเวณหลังเขื่อนซึ่งพบว่าต้นไม้ที่ปลูกมีอัตรารอดประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต่างจากก่อนที่จะมีเขื่อนไม้ไผ่ที่ไม่สามารถปลูกต้นไม้ได้เนื่องจากคลื่นมีความรุนแรงจะทำให้ต้นไม้หลุดลอยไปตามกระแสคลื่นมีอัตรารอดที่น้อยมาก  นอกจากนี้พบว่าการปักไม้ไผ่ยังส่งผลให้เขื่อนไม้ไผ่ช่วยในการดักเมล็ดพันธ์ที่ร่วงหลุดแล้วจะลอยไปติดที่เขื่อนไม้ไผ่และงอกขึ้นเองตามธรรมชาติแทนที่จะลอยออกสู่ทะเลในช่วงน้ำลง  จึงเป็นวิธีการปลูกต้นไม้โดยวิธีการทางธรรมชาติซึ่งจะมีอัตรารอดที่สูงมากมาก
ความหลากหลายของระบบนิเวศสัตว์น้ำ เนื่องจากเมื่อมีการสร้างเขื่อนไม้ไผ่ได้ส่งผลให้เกิดตะกอนเลนเพิ่มขึ้นส่งผลให้มีปริมาณสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นในพื้นที่  ทางชุมชนได้สังเกตเห็นว่าบริเวณดินเลนจะมีหอยมาอาศัยอยู่ ได้แก่ หอยเมล็ดขนุน  หอยท้ายเภา  หอยตลับ(หอยหวาน)  ปูไฟแช็ก  นอกจากนี้ความเปรี้ยวของไม้ไผ่เมื่อถูกแช่น้ำจะล่อปลาเข้ามาในช่วงน้ำขึ้นซึ่งชาวบ้านสามารถวางอวนจับปลาได้ ซึ่งชาวบ้านสามารถเก็บมาเป็นอาหารกลายเป็นแหล่งอาหารใกล้ชุมชน ชาวบ้านลงไปเก็บหอยบริเวณชายหาดใกล้ๆเขื่อนไม้ไผ่
 ผลกระทบที่เกิดขึ้นทางด้านเศรษฐกิจ  นอกจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการประกอบอาชีพประมงชายฝั่ง ชุมชนยังสามารถลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้านเรือที่เสียหายจากผลกระทบจากการกัดเซาะชายฝั่ง และคลื่นลมมรสุมที่สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนของคนในชุมชนและต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเป็นประจำทุกปี
 ผลกระทบที่เกิดขึ้นทางด้านสังคม โครงการฟื้นฟูทรัพยากรป่าชายเลนและป่าชายหาดในพื้นที่ชายฝั่งโดยการปักแนวไม้ไผ่  เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนเพื่อร่วมกันคิดวิเคราะห์ปัญหา และวางแผนการแก้ปัญหาของชุมชน  ก่อให้เกิดการเรียนรู้ที่จะแก้ไขปัญหาและความร่วมมือในชุมชนเพื่อมุ่งเน้นในการแก้ไขปัญหาที่สร้างผลกระทบต่อชุมชนโดยกระบวนการของชุมชนเอง  ไม่เพียงแค่ความร่วมมือในชุมชนเท่านั้นแต่ยังมีการสร้างความร่วมกับชุมชนข้างเคียงอื่นๆด้วย  เช่นการสร้างข้อตกลงในการดูแลทรัพยากรป่าชายเลนบริเวณพื้นที่ชายหาดบ้านคลองประสงค์ร่วมกัน 

 ความท้าทายในอนาคต
การสร้างความเข้าใจกับคนในชุมชนและความร่วมมือในการดูแลรักษา และการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ป่าชายเลน การติดตามประเมินผลเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาแผนพัฒนาของชุมชนที่สอดคล้องกับสภาพการเปลี่ยนแปลงโดยอาศัยข้อมูลที่ถูกจัดทำขึ้นโดยชุมชน จัดทำเป็นแผนแม่บทในการดูแลรักษาฐานทรัพยากรของชุมชนต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น